|
|
|
|
|
สถิติผู้เข้าชม
|
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
|
3
|
ผู้เข้าชมในวันนี้
|
34
|
ผู้เข้าชมทั้งหมด
|
1,181,065
|
เปิดเว็บ
|
31/05/2554
|
|
|
27 เมษายน 2567
|
อา |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ |
ศ. |
ส. |
|
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
google-site-verification: googled7b2e525c91f29df.html
บทความ
|
|
ระยะเวลาการสร้างรังและชนิดต่าง ๆ ของรังนก
[29 มิถุนายน 2554 06:48 น.]จำนวนผู้เข้าชม 16874 คน |
|
รังนกนางแอ่น คาร์เวียแห่งตะวันออก...ทองคำขาวแห่งท้องทะเล
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : รังนกนางแอ่นนับว่าเป็นหนึ่งในบรรดาอาหารที่ได้รับการยกย่องว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูงและรสชาติดี โดยมีชื่อเรียกว่า “คาร์เวียแห่งตะวันออก” อีกทั้งยังมีความเชื่อว่ารังนกนางแอ่นนั้นมีสรรพคุณทางยาช่วยรักษาโรคทางเดินหายใจ บำรุงปอด เพิ่มโลหิต บำรุงพลังทางเพศ และมีคุณสมบัติยับยั้งการตกตะกอนของเม็ดเลือดซึ่งเท่ากับเป็นการลดโอกาสเกิดการอุดตันในเส้นเลือด แต่ด้วยรังนกนางแอ่นนั้นเป็นผลผลิตทางธรรมชาติที่มีเฉพาะบางแหล่งเท่านั้น รวมทั้งความยากลำบากในการเข้าไปเก็บรังนกและกรรมวิธีการทำความสะอาดรังนกก่อนจะนำมาบริโภค ทำให้ราคารังนกนางแอ่นนั้นอยู่ในเกณฑ์สูง ดังนั้นในบางครั้งจึงนิยมเรียกรังนกนางแอ่นว่า “ทองคำขาวแห่งท้องทะเล” โดยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรังนกนางแอ่นนั้นในแต่ละปีสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ความต้องการรังนกนางแอ่นทั้งในประเทศและเพื่อการส่งออกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการรังนกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีธุรกิจการสร้างบ้านให้นกนางแอ่นเพื่อเก็บรังนก นับว่าเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ดีทีเดียว เนื่องจากในปัจจุบันรังนกนางแอ่นจากธรรมชาติเริ่มมีปริมาณน้อยลงรังนกนางแอ่น...ผลิตภัณฑ์ที่นิยมบริโภคของไทยรังนก นกนางแอ่นเริ่มทำรังครั้งแรกได้ในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งผู้ที่เก็บรังนกหรือแทงรังจะปล่อยให้นกทำรังเป็นเวลาราว 100 วัน จึงจะเริ่มเก็บรังนกในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นนกจะเริ่มทำรังครั้งที่ 2 ซึ่งผู้ที่เก็บรังนกจะปล่อยให้นกทำรังเป็นเวลา 20 วันจึงจะเริ่มเก็บรังนกในราวเดือนมิถุนายน เมื่อถูกเก็บรังครั้งที่ 2 นกนางแอ่นจะเริ่มสร้างรังใหม่อีกเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งการสร้างรังจะกินเวลาราว 40 วันกว่าจะเสร็จ ผู้เก็บรังนกจะเริ่มเก็บรังนกในเดือนกรกฎาคม การเก็บรังนกแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 15-20 วัน รังนกที่เก็บได้นั้นจะมีการคัดแยกระหว่างรังที่มีขนาดใหญ่และสวย และรังเล็ก รวมทั้งแยกรังสีขาว รังสีแดง(เป็นรังนกที่เก็บได้จากการทำรังครั้งที่สองและครั้งที่สาม) และรังสีดำ(รังของนกนางแอ่นสีดำ) โดยใช้มีดตัดรังนกที่ติดกับผนังถ้ำออก แปรงสิ่งสกปรก แล้วนำไปตากลมให้แห้งสนิทจึงนำบรรจุหีบ ส่วนรังนกสีดำบรรจุกระสอบป่านแยกไว้ต่างหาก เนื่องจากราคาจำหน่ายจะต่ำกว่ารังนกสีขาวปัจจุบันมีการประกาศในพระราชกฤษฎีกาตั้งแต่ปี 2484 กำหนดให้เกาะที่มีนกนางแอ่นอาศัยอยู่ตามธรรมชาติเป็นเขตหวงห้ามจำนวน 104 เกาะ นอกจากนี้พระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. 2540 (มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่14 ตุลาคม 2540 พื้นที่ใช้บังคับในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง กระบี่ ตรัง พังงา สตูล และตราด ส่วนในจังหวัดอื่นจะใช้บังคับ เมื่อใดให้ออกเป็นพระราชกฤษฎีกา สาระสำคัญห้ามมิให้ผู้ใดเก็บรังนกที่มีอยู่ตามธรรมชาติบนเกาะ หรือในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่ได้รับสัมปทาน ผู้รับสัมปทานจะเก็บรังนกได้ไม่เกินปีละสามครั้ง ตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัมปทาน เงินอากรรังนก ให้จัดสรรแก่ราชการส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนั้น ในกรณีที่จำนวนเงินอากรมีจำนวนไม่เกินสามล้านบาท ให้จัดสรรเงินอากรดังกล่าวให้ราชการส่วนท้องถิ่นที่มีการจัดเก็บรังนกนั้นทั้งหมด ในกรณีที่จำนวนเงินอากรมีจำนวนเกินสามล้านบาท ให้จัดสรรเงินอากรจำนวนสามล้านบาทแรกให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่นที่มีการจัดเก็บรังนกนั้น สำหรับจำนวนเงิน อากรที่เกินสามล้านบาท ให้จัดสรรจำนวนร้อยละสี่สิบของเงินดังกล่าว ให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่นที่มีการจัดเก็บรังนกนั้น ส่วนจำนวนอีกร้อยละหกสิบของเงิน ดังกล่าวให้จัดสรรให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่นอื่นในจังหวัดเดียวกัน โดยที่กรมสรรพกรจะเป็นผู้จัดแบ่งให้มีผู้ขออนุญาตตามกำหนดระยะเวลาและกำหนดสถานที่ที่จะจัดเก็บ โดยผู้ที่จะได้รับอนุญาตเก็บนั้นต้องมีการประมูลอากรการเก็บรังนก ผู้ที่ประมูลเงินอากรสูงสุดจะเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการเก็บรังนกตลาดรังนกในประเทศ...เติบโตต่อเนื่องจากกระแสรักสุขภาพตลาดรังนกนางแอ่นในประเทศไทย แยกออกได้เป็น ดังนี้รังนกนางแอ่นที่วางจำหน่ายตามร้านขายยาแผนโบราณและร้านขายยาจีน ซึ่งมีการรับรองว่าเป็นรังนกแท้ ราคาจำหน่ายของรังนกนางแอ่นคุณภาพดีสูงถึง 35,000-60,000 บาทต่อกิโลกรัม และถ้าเป็นเกรดธรรมดาจะมีราคาตั้งแต่กิโลกรัมละ 5,500-20,000 บาท
|
|
|
|